พริกขี้หนู และพริกชนิดต่างๆ เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนไทยจำนวนมหาศาล เพราะว่าพริกเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงอาหารต่างๆ ส่วนประกอบสำคัญในเครื่องเทศ เครื่องปรุงรส สรรพคุณทางยา ตลอดจนนำพริกไปใช้ประโยชน์ในทางอื่นๆด้วย ประเทศไทยสามารถปลูกพริกได้ทั่วประเทศ ได้เปรียบประเทศอื่นๆ ในเรื่องความหลากหลายของสายพันธุ์พริก อีกทั้งคนไทยยังนิยมทานพริก นอกจากนี้พริกยังเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ
โอกาสสร้างรายได้กับการปลูกพริกขาย
พริกขี้หนู และพริกชนิดต่างๆ สามารถปลูกได้ดีในประเทศ มีระยะเวลาให้ผลผลิตนานพอสมควร สำหรับคนที่่ต้องการปลูกไว้บริโภคเองในบ้าน อาจจะปลูกพริกในกระถางหรือปลูกจำนวนไม่กี่ต้นก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกพริกขาย บางกอกทูเดย์ เราก็ได้รวบรวมข้อมูลการปลูกพริกขี้หนู มาให้ได้ทดลองปลูก หรือใช้เป็นแนวทางได้ แบบสรุปไม่ยาวจนเกินไป เพราะเรื่องการเกษตรจะให้รู้จริง ต้องทำจริง อีกทั้งในอนาคตพื้นที่การเกษตรก็แนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่การจะทำเกษตรให้มีกำไรนั้นจะต้องมีการเตรียมตัววางแผนอย่างดี รวมถึงการศึกษาหาข้อมูลต่างอยู่ตลอดเวลาด้วย
พริกขี้หนู ชื่อเรียกอื่นๆ เช่น ดีปลี ดีปลีขี้นก พริกขี้นก ปะแกว พริก พริกแด้ พริกแต้ พริกนก หมักเพ็ด หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Capsicum flutescens Linn. เป็นไม้พุ่มเตี้ย ต้นมีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ใบแบนเรียบเป็นมัน ปลายใบแหลม มีดอกสีขาว ผลมีลักษณะกลมยาวปลายแหลมชี้ฟ้า ซึ่งจะต่างจากพริกชี้ฟ้าตรงที่ผลจะชี้ลงพื้นดิน ส่วนขนาดผลยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่จะมีสีเหลือง สีส้ม สีแดง หรือแดงแก่ และในแต่ละผลจะมีเมล็ดเรียงรายอยู่จำนวนมาก
วิธีการปลูกพริกขี้หนู
พันธุ์พริกขี้หนู หาซื้อได้ไม่ยาก หากต้องการปลูกเชิงการค้าแล้ว ต้องเลือกพันธุ์ที่มีความต้องการสูง อีกทั้งยังเหมาะสมสำหรับพื้นที่เพาะปลูกนั้นๆด้วย ในขั้นตอนเลือกพันธุ์พริกขี้หนูนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกพันธุ์ที่ดี มีความต้องการสูง เหมาะสมกับื้นที่เพาะปลูก จะช่วยทำให้ลดต้นทุน และได้ผลผลิตสูงด้วย…เพราะว่า พันธุ์ คือหัวใจสำคัญของการทำเกษตรก็ว่าได้
ขั้นตอนการเตรียมดิน
เริ่มจากการเตรียมแปลงเพาะ ขุดหน้าดิน 15-20 เซนติเมตร (1หน้าจอบ) เตรียมทำเป็นแปลงกว้าง 1 เมตร ผสมปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมักคลุกเคล้าให้เข้ากับดินจากนั้นพรวนดินหรือตีดินให้ละเอียดและปรับหน้าดินให้เรียบเสมอกัน ก่อนหว่านเมล็ดให้ทั่วแปลงหรือหากเลือกปลูกในกระบะเพาะ อาจใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยคอก (อัตราส่วน 1:1) จากนั้นใช้แกลบหรือฟางข้าวกลบทับบางๆ ก่อนรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้าอายุประมาณ 25-30 วันจึงย้ายปลูกการเตรียมแปลงปลูกและย้ายกล้า ใช้จอบขุดหน้าดินลึก 15-20 เซนติเมตร ทำแปลงขนาดกว้าง 1 เมตร x ความยาวตามความเหมาะสมของพื้นที่ จากนั้นนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านให้ทั่วและคลุกเคล้ากับดิน ก่อนขุดหลุมปลูก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 30 เซนติเมตร ระหว่างแถว 70 -80 เซนติเมตร
วิธีปลูกพริกขี้หนู รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 หลุมละ ½ ช้อนชา ทับหน้าปุ๋ยเคมีด้วยปุ๋ยคอกหลุมละ 1 กะลามะพร้าว จากนั้นถอนแยกต้นกล้าอย่างระมัดระวัง โดยการย้ายต้นกล้าลงปลูกควรทำโดยทันทีและเป็นช่วงเย็น จากนั้นนำต้นกล้าลงหลุมปลูก หลุม ละ 1 ต้น จากนั้น รดน้ำตามให้ชุ่ม
วิธีการดูแลรักษา พริกขี้หนู เมื่อปลูกแล้ว
การให้น้ำพริกขี้หนู ควรให้น้ำอย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ แต่อย่ารดให้แฉะเกินไปการให้น้ำควรให้ทุกวันหลังจากปลูกจนต้นกล้าตั้งตัวได้ประมาณ 5-6 สัปดาห์ จากนั้นค่อยลดปริมาณน้ำลง ซึ่งอาจจะรด 1 วัน หยุด 2 วัน ก็ได้ ทั้งนี้ต้องดูสภาพความชื้นของดินด้วย อย่าให้แฉะหรือ แห้งเกิน เพราะจะทำให้พริกชะงักการเจริญเติบโต
การใส่ปุ๋ย ให้บำรุงพริกด้วยการใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 อัตรา 1 ช้อนชา/ต้น ทุกๆ 15-20 วัน โดยโรยห่างโคนต้น 5 เซนติเมตร และรดน้ำตามทันที หรือ จะเลือกใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยหมักชีวภาพประมาณ 1-2 กำมือ/ต้น โรยรอบโคนต้นทุกๆ 20 วันก็ได้
การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ฉีดพ่นน้ำปุ๋ยหมักชีวภาพทุก 10-15 วันครั้ง จะช่วยบำรุงและป้องกันโรคพืช หรือศัตรูพืชได้อีกทาง
วิธีการเก็บเกี่ยว พริกเป็นพืชที่มีอายุยืนและปลูกได้ผลดีตลอดปี มีอายุเก็บเกี่ยวได้หลัง ย้ายกล้าลงปลูก 60-90 วัน การเก็บเกี่ยวควรเก็บทุกๆ 5-7 วันโดยใช้วิธีเด็ดทีละผล อย่าเก็บทั้งช่อ เพราะผลแต่ละช่อแก่ไม่พร้อมกัน โดยพริกขี้หนูสามารถเก็บได้ยาวนานถึง 6 เดือน
ผลของพริกขี้หนู สรรพคุณและประโยชน์ ใช้ประกอบอาหารได้รสชาติเผ็ดร้อน ส่วนยอดอ่อนนำมาลวกเป็นผักแกล้มน้ำพริกได้ หรือนำไปปรุงอาหารประเภทแกงจืด แกงเลียง มีสรรพคุณทางยาช่วยขับลม ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไข้ แก้ตานซางในเด็ก มีสาร capsaicin ใช้เป็นส่วนผสมในยาขับลมและขี้ผึ้งทาถูนวด ประโยชน์ของพริกขี้หนูมากขนาดนี้จึงทำให้ตลาดยังมีความต้องการต่อเนื่อง ใครสนใจอยากจะปลูกพริกขี้หนูขายเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักก็ลองลงมือทำ ลองปลูกลองขายกันได้เลย
ขอบคุณ รูปภาพจาก pharmacy.mahidol.ac.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น