วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

10 มือถือสุดแปลกจากทั่วโลก ที่น้อยคนนักจะรู้จัก

ดูเหมือนว่าตลาดโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันจะพบแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ เพราะไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนยี่ห้อใด ต่างก็มีคุณสมบัติหลักๆ เหมือนกันคือเน้นหน้าจอใหญ่ กล้องสวย บนดีไซน์สีเหลี่ยมผืนผ้าที่รองรับคอนเทนต์ความบันเทิงได้อย่างเต็มอรรถรส จนอาจเรียกได้ว่าคุณสมบัติเหล่านี้เป็นมาตรฐานของการออกแบบมือถือไปแล้ว แต่สำหรับใครที่กำลังเบื่ออยากเห็นอะไรที่ฉีกแนว ในบทความเราก็มี 10 มือถือสุดแปลกที่น้อยคนนักจะรู้ว่ามีอยู่จริงๆ มาให้ทุกท่านได้ชมกัน จะแปลกแหวกแนวแค่ไหนไปดูกันเลยครับ

1. Runcible

เราทุกคนต่างก็คุ้นเคยกับโทรศัพท์มือถือรูปทรงสีเหลี่ยมกันมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ต้องรองรับคอนเทนต์ความบันเทิงต่างๆ ที่มาในรูปแบบ widescreen แต่ไม่ใช่สำหรับ Runcible เพราะมือถือรุ่นนี้มาในรูปทรงกลมแบนแบบนาฬิกาพก ไม่มีเหลี่ยมมุมแม้แต่น้อย แถมยังอินดี้สุดๆ ด้วยการรองรับรายชื่อผู้ติดต่อแค่ 12 เบอร์ และจะรับสายหรือโทรออกได้แค่รายชื่อที่บันทึกไว้เท่านั้น นอกเหนือจากนี้จะต้องติดต่อกันด้วย voicemail อีกทั้งยังไม่มีเสียงแจ้งเตือนใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อให้ผู้ใช้จดจ่อกับกิจกรรมที่ทำอยู่ได้โดยไม่ถูกขัดจังหวะ

Runcible เป็นโปรเจ็คท์สตาร์ทอัพของ Monohm Inc ที่เคยระดุมทุนและเปิด pre-order ไปแล้วเมื่อกลางปี 2016 ปัจจุบันดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า Runcible จะวางจำหน่ายอีกครั้งในอนาคตหรือไม่

2. Zanco Fly

Zanco Fly คือมือถือระดับล่างราคาถูกจากประเทศจีนที่ผลิตด้วยพลาสติกล้วนๆ ที่ไม่ได้มีฟีเจอร์โดดเด่นอะไร แต่ด้วยขนาดที่เล็กพอๆ กับกุญแจรถและราคาที่ถูกจนเกือบจะแจกฟรี ทำให้มันฮิตมากๆ ในหมู่นักโทษ เพราะสามารถลักลอบนำเข้ามาในคุกได้ด้วยการแอบซ่อนในร่างกายตามจุดต่างๆ แถมแบตเตอรีก็อึดพอประมาณ ไม่ต้องเสี่ยงหาที่ชาร์จบ่อยๆ ให้ผู้คุมสงสัยด้วย

3. Pantone 107SH

เราไม่ค่อยเห็นโทรศัพท์มือถือที่มากับฮาร์ดแวร์เฉพาะทางเท่าไหร่ เพราะสำหรับผู้ผลิตแล้วมันเป็นการลงทุนที่เสี่ยงมากๆ หากไม่มีอะไรการันตีว่าจะมีคนอยากใช้ฮาร์ดแวร์นั้นจริงๆ แต่ในบางสถานการณ์ฟังก์ชันเฉพาะทางบางอย่างก็จำเป็นสำหรับคนหมู่มากเช่นกัน

หลังจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2011 Softbank ได้เปิดตัว Pantone 107SH โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับเครื่องตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีในตัว เพียงแค่กดปุ่มตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ มือถือ Android เครื่องนี้จะทำการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสีในบริเวณรอบๆ ทันที โดยจะใช้เวลา 10 วินาทีก่อนจะแสดงผลลัพธ์บนหน้าจอ อย่างไรก็ตาม Softbank ระบุว่า Pantone 107SH มีความแม่นยำในการตรวจวัดเพียง 20% เท่านั้นและไม่แนะนำให้ฝากความหวังไว้กับมันในสถานการณ์อันตราย แต่ด้วยความสามารถระดับนี้ ก็ถือว่าเพียงพอที่จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงภัยจากกัมมันตภาพรังสีในชีวิตประจำวันได้

4. Akyumen Holophone

Akyumen Holophone เป็นมือถืออีกรุ่นหนึ่งที่มาพร้อมกับฟังก์ชันเฉพาะทาง แต่อาจจะไม่แปลกเท่า Pantone 107SH โดยมือถือรุ่นนี้คือแฟ็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว และมีสเปกที่ไม่เลวเมื่อเทียบกับแฟ็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในช่วงนั้น แต่จุดขายของมันจริงๆ คือโปรเจ็คเตอร์ 35 lumen ด้านหลังตัวเครื่องที่สามารถฉายภาพหน้าจอกว้าง 16 ฟุตบนพื้นผิวทุกประเภท อีกทั้งยังใช้วัสดุตัวเครื่องที่เป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยให้ถือตัวเครื่องพร้อมกับใช้งานโปรเจ็คเตอร์ได้เป็นเวลานาน สามารถต่อ video output ผ่านสาย HDMI ได้ และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10

5. Freedom 251

ช่วงนี้หลายคนเริ่มบ่นว่าสมาร์ทโฟนแพงขึ้นทุกวัน หลายๆ รุ่นเริ่มแตะ 30,000 - 40,000 บาทเข้าไปแล้ว ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากบนโลกใบนี้ยังคงต้องหาเช้ากินค่ำ และเหมือนถูกกีดกันให้เข้าถึงเทคโนโลยียากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้เองผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากอินเดีย Ringing Bell จึงได้ทลายกำแพงดังกล่าว โดยผลิตสมาร์ทโฟนที่ราคาถูกที่สุดในโลกขึ้นมานั่นคือ Freedom 251 ซึ่งมีราคาค่าตัวเพียง 251 รูปีตามชื่อ คิดเป็นเงินไทยได้ 125 บาท กาแฟบางแก้วยังแพงกว่าด้วยซ้ำ สำหรับสเปกก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใดเมื่อเทียบกับราคา โดยมาพร้อมกับ RAM 1GB ชิปประมวลผลความเร็ว 1.3GHz และกล้องหลังความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล แม้ว่าตัวฮาร์ดแวร์จะมีคุณภาพตามราคาแต่ก็สามารถโทรออก รับสาย เล่นโซเชียล และทำอะไรต่อมิอะไรได้พอๆ กับสมาร์ทโฟนราคาเรือนหมื่นเช่นกัน

6. Siempo

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแต่ละวันเราเสียเวลาไปกับสมาร์ทโฟนมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการแอบเล่นเกมเวลาทำงาน หรือการเลื่อนฟีด Facebook ดูนั่นดูนี่อย่างไร้จุดหมาย รู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปนานแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เราเสียเวลาของเราถูกดูดหายไปโดยใช่เหตุ โปรเจ็คท์ Siempo จึงถือกำเนิดขึ้นบน Kickstarter

Siempo คือสมาร์ทโฟนที่เรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ครบถ้วนทุกการใช้งานที่สำคัญๆ เช่นการโทรเข้าโทรออก การส่ง SMS/MMS อีเมล์ ท่องเว็บ ปฏิทิน แผนที่ กล้องถ่ายภาพ การเชื่อมต่อ Wi-Fi + Bluetooth และพอร์ต USB-C โดยมีการเพิ่มปุ่ม Pause ที่จะบล็อกการแจ้งเตือนทุกอย่างเป็นเวลา 15-60 นาทีตามต้องการ สามารถเรียกแป้นพิมพ์และส่งข้อความได้ด้วยการกดปุ่มโฮม ไม่ต้องเข้าหน้าจอหลัก หลีกเลี่ยงการถูกดึงความสนใจจากไอคอนแอปพลิเคชันบนหน้าจอ อย่างไรก็ตามโปรเจ็คท์นี้ไม่ประสบความสำเร็จในการระดมทุน และถูกพับไปอย่างน่าเสียดาย

7. Kyocera Rafre KYV40

ความทนทานเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้าจอที่ทนขึ้น บอดี้ที่แกร่งขึ้น และการกันน้ำ-กันฝุ่น แต่ Kyocera Rafre KYV40 นั้นให้ความสำคัญกับความทนทานในด้านที่แปลกออกไป โดยออกแบบมาเพื่อให้สามารถล้างด้วยสบู่และน้ำยาได้ไม่ต่างจากการล้างจาน หลายคนคงจะสงสัยว่าคุณสมบัติเช็ดล้างได้นี้มีความจำเป็นอย่างไร คำตอบก็คือมันมีความจำเป็นกับเหล่าแม่บ้านที่มักจะทำกับข้าวพร้อมกับดูสูตรการทำไปด้วยนั่นเอง ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ มือของคุณแม่บ้านมักจะเลอะและมีกลิ่นคาวจากการทำอาหารอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมาร์ทโฟนเลอะและมีกลิ่นไปด้วยเมื่อใช้งาน นอกจากนี้ในครัวยังมีสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับสมาร์ทโฟน เพราะมีทั้งความร้อนจากเตา และน้ำจากซิงค์ล้างจาน หากเป็นสมาร์ทโฟนทั่วไปจะทำความสะอาดยากและอาจพังก่อนเวลาอันควรเพราะโดนความร้อนหรือตกน้ำ แต่สำหรับ Kyocera Rafre KYV40 คุณแม่บ้านสามารถหยิบจับใช้งานได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวเลอะ เพราะสามารถนำไปเช็ดล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและน้ำยาได้ในภายหลังนั่นเอง

8. ZTE Hawkeye

เมื่อปี 2016 ZTE ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากจีน ได้ตั้งโปรเจ็คท์ Kickstarter สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีคอนเซ็ปต์แหวกแนว ซึ่งสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของสายตาผู้ใช้ (Eye Tracking) และฝาหลังโพลิเมอร์ที่ยึดติดกับผนังได้ ไม่ต้องถือให้เมื่อยมือเวลาดูวิดีโอหรือท่องเว็บ โดยมาพร้อมกับชิป Snapdragon 625 กล้องคู่ด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ Android 7.0 แต่ดูเหมือนว่าสเปกโดยรวมของ ZTE Hawkeye จะไม่โดนใจผู้ใช้เท่าไหร่ ทำให้ ZTE ตัดสินใจแถลงการณ์ขอโทษและยุบโปรเจ็คท์อย่างรวดเร็ว แต่จะนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมหรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป

9. NoPhone

NoPhone คือโทรศัพท์มือถือที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและไม่มีใครกล้าเหมือน เพราะจุดเด่นของมันคือ “ทำอะไรไม่ได้เลย” ไม่มีหน้าจอ ไม่มีกล้อง ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากแผ่นพลาสติกเปล่าๆ ฟังก์ชันเดียวของมันคือการเป็นมือถือปลอมๆ ไว้ให้จับแก้เหงามือเพื่อบรรเทาอาการติดสมาร์ทโฟน

NoPhone วางจำหน่ายในราคา $10 หรือราวๆ 320 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่นท็อป(?)ที่มีกระจกหน้าจอเพิ่มมาด้วยในราคา $15 หรือราว 490 บาท ถึงจะแพงไปหน่อยสำหรับแผ่นพลาสติกธรรมดาๆ แต่ดูเหมือนว่าจะขายดีไม่ใช่เล่น

10. Siemens Xelibri 6

ปิดท้ายกันด้วยมือถือสุดแปลกจากอดีต Siemens Xelibri 6 ที่มาในดีไซน์ตลับแป้งสุดชิคเพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้สาวๆ โดยเฉพาะ ในยุคนั้น (ปี 2003) เป็นช่วงที่แบรนด์มือถือต่างแข่งขันกันทำตลาดในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ทำให้ต้องพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยและแตกต่าง จึงมีมือถือหน้าตาแปลกๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย Xelibri 6 คือหนึ่งในนั้น โดยมีจุดขายคือดีไซน์ที่เหมาะกับผู้หญิงสุดๆ แถมยังมีกระจกเงามาให้ในตัว น้ำหนักเบาเพียง 90 กรัมขนาดเล็กกะทัดรัดเก็บไว้ในกระเป๋าถือได้สบายๆ

ที่มา : PCmag

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น